ทำไมกินแครอทและฟักทองถึงผิวเหลือง

แครอทและฟักทองถึงผิวเหลือง มนุษย์นั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความเฉลียวฉลาดเป็นอย่างมาก  ระบบต่างๆร่างกายของมนุษย์นั้นมีการทำหน้าที่ประสานกันอย่างเป็นระบบ

ซึ่งในวันนี้เนื่องจากที่เรากำลังจะพูดถึงอาหารการกิน ที่เรากินเข้าไปแล้วมันมีผลต่อสีผิวของเรา ซึ่งอาหารดังกล่าวนั้นก็ไม่ใช่อาหารที่แปลกพิสดารอะไรมากนัก  เพราะว่ามันคือ แครอทและฟักทอง ที่มันจะส่งผลทำให้ผิวของเรา แน่นอนการทานปริมาณที่มาก  ทำไมเราถึงมีสีผิวที่เหลืองขึ้น ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักและไขข้อสงสัยเกี่ยวกับคำถามดังกล่าวนี้กัน

เรื่องราวที่เรากำลังจะพูดถึงในวันนี้ คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมเวลาที่เรากิน แครอทและฟักทองทำไมผิวเราถึงเหลือง  คุณเคยสังเกตตัวเองหรือไม่ หากเรากินสิ่งต่างๆเหล่านี้ในปริมาณที่มากเกินไปแน่นอนว่าในวันนี้เรามีคำตอบแล้วก็อยากให้ทุกคนได้ลองไปศึกษา และทำความรู้จักเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้พร้อมกัน

  จากผลการสังเกตและศึกษา พบว่า การทานผัก 2 ประเภทนี้ในปริมาณมาก สีผิวจะเปลี่ยนเป็น     สีส้มหรือสีเหลืองได้  ซึ่งนี่ก็คือเรื่องจริง เนื่องจากฟักทอง นั้นเป็นพืชที่มีสารเบต้าแคโรทีนอยู่ข้างเยอะ   

แล้วมัน ก็คือสารที่มีสีส้มสีเหลือง โดยการได้รับสารเบต้าแคโรทีน ดังกล่าวเข้ามาในร่างกายมากเกินไป

    มันจะเข้าไปอยู่ในกระแสเลือด แล้วไปสะสมตามเนื้อเยื่อผิวหนัง  ทำให้ผิวของเรามีสีส้มสีเหลืองแต่มันเกิดขึ้นได้ง่ายมากกับเด็กทารกและเด็กเล็ก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการกินอาหารของเราในแต่ละวันจะได้รับสารเบต้าแคโรทีนเข้าไป 6  ถึง 8 มิลลิกรัม

จึงจะไม่ส่งผล แต่ถ้าหากว่าร่างกายของเรารับเข้าไป 30 mg ขึ้นไปหรือว่าจะเริ่มเปลี่ยนสีได้อย่างชัดเจน แน่นอนว่าการกินฟักทองและแครอท เป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกายของเราแต่ถ้าหากว่าเรากินในปริมาณที่มากเกินไป  มันก็ส่งผลเสียกับร่างกายของเราด้วยเช่นเดียวกัน 

นอกจากนี้ก็ยัง   มีผักผลไม้อีกมากมายที่มันส่งผลต่อสีผิวของเรา  อย่างไรก็ตามถ้าหากคุณสนใจอยากทำความรู้จักหรือว่าศึกษาเรื่องราวดังกล่าวนี้เพิ่มเติม ก็ลองศึกษาค้นหาข้อมูลดูได้ในอินเตอร์เน็ต สุดท้ายนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตามบนโลกของเรายังมีเรื่องราวอีกมากมาย ที่มีความน่าสนใจที่เรายังไม่ได้นำเสนอให้ทุกคนได้รับรู้

ถ้าคุณกำลังสงสัยเรื่องอะไรอยู่เราก็อยากให้คุณได้ออกไปศึกษา และก็เปิดโลกกว้างทำความรู้จักเกี่ยวกับเรื่องราวใหม่ๆดูบ้าง ทุกสิ่งในโลกใบนี้มันก็จะมาอยู่ในบันทึกความทรงจำที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังฟรี