ขอความช่วยเหลือน้องข้าวต้มเด็กชายอายุ 6 ขวบเรียนดีแต่ยากจน

             เมื่อวันที่ 15  เดือนกันยายน ปีพ.ศ  2563  ได้มี Facebook ของครูสาวคนหนึ่งซึ่งเธอเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรีโดยผู้สาวคนนี้ได้มีการโพสต์ Facebook ขอความช่วยเหลือเพื่อนในโลกออนไลน์ซึ่งระบุว่าเธอมีเด็กนักเรียนคนหนึ่งที่อยู่ในโรงเรียนดังกล่าวเป็นเด็กที่เรียนเก่งแต่มีฐานะยากจนที่สำคัญเด็กเป็นเด็กดีคอยช่วยเหลือครูบาอาจารย์ทุกอย่างไม่ว่าใครใช้ให้ทำอะไรก็ทำแต่ปัญหาของเด็กก็คือเด็กอยู่กับแม่เพียงแค่สองคนเท่านั้น

ซึ่งแม่ของเด็กไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง มีอาชีพเพียงแค่การรับจ้างทั่วไปเท่านั้นทำให้บางวันนั้นทั้งเด็กและแม่ของเด็กไม่มีข้าวกินจำเป็นต้องไปขอข้าววัดกินซึ่งเด็กนักเรียนที่ครูสาวคนนี้อยากจะให้คนในโลกออนไลน์ช่วยเหลือนั้นอายุเพียงแค่ 6 ขวบเท่านั้นซึ่งขณะนี้เด็กเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3  

โดยครูสาวยังระบุอีกว่าบางวันเด็กไม่มีข้าวมากินที่โรงเรียนต้องอาศัยกินข้าวที่คุณครูแบ่งให้กินซึ่งเป็นที่น่าสงสารอย่างมากและสภาพความเป็นอยู่ของเด็กนั้นก็ไม่มีบ้านเป็นของตนเองต้องปลูกเพิงสังกะสีอาศัยที่ดินชาวบ้านอยู่จึงอยากขอความช่วยเหลือจากโลกออนไลน์บริจาคข้าวของเครื่องใช้ให้กับครอบครัวของเด็กชายคนดังกล่าว

           หลังจากข้อความนี้ถูกใจออกไปมีคนอื่นส่งข้าวของเครื่องใช้มาช่วยเหลือเด็กคนดังกล่าวมากมาย ซึ่งครูสาวที่โพสต์ข้อความนั้นระบุว่า เด็กชายคนดังกล่าวชื่อว่าน้องข้าวต้ม สิ่งที่เธอต้องการขอความช่วยเหลือให้กับเด็กคนนี้เพราะเธอรู้สึกสงสารเด็ก  หลังจากที่ครูสาวได้มีการโพสต์ข้อความขอความเชื่อไปแล้วก็ได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดเดินทางมาช่วยเหลือครอบครัวของน้องข้าวต้มเบื้องต้นแล้ว

ซึ่งบรรดาเพื่อนๆใน Facebook ของครูสาวเองก็มีคนมาบริจาคเงินให้กับคุณแม่ของเด็กเอาไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉินอย่างไรก็ตามแต่การโพสต์ข้อความในครั้งนี้เป็นการขอความร่วมมือคนในโลกออนไลน์ซึ่งคุณครูเองไม่ได้มีเจตนาที่จะต้องการรับบริจาคเงินมากมายเพียงแค่อยากจะให้เด็กนั้นได้มีข้าวของเครื่องใช้และมีของกินซึ่งถ้าหากใครสนใจจะบริจาคข้าวของเครื่องใช้ให้กับเด็กชายข้าวต้มก็สามารถติดต่อคุณครูคนที่โพสต์ข้อความได้เลยคุณครูจะเป็นผู้ประสานงานนำเข้าของเครื่องใช้ต่างๆไปส่งให้น้องข้าวต้มด้วยตนเอง

สำหรับประเทศไทยเรายังมีเด็กด้อยโอกาสอีกมากมายที่ครอบครัวมีฐานะยากจนและ เด็กบางคนยังขาดพ่อและแม่คอยดูแลบางครั้ง เด็กต้องอยู่ภายใต้การดูแลของปู่กับย่าซึ่งชรามากแล้วทำให้เด็กไทยหลายคนนั้นขาดโอกาสที่ดีที่จะได้มีการศึกษาต่อในระดับการศึกษาที่สูงขึ้นไปซึ่งปัญหาเหล่านี้คงต้องให้รัฐบาลลงมาดูแลและแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วนเพื่อการศึกษาของเด็กไทยจะได้พัฒนา

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  แทงหวยออนไลน์ยังไง